วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

Bid / Offer / Volume

Bid / offer / volume สำหรับมือเก๋าๆ คงเข้าใจง่ายๆ  แต่มือใหม่อาจยังไม่เข้าใจนะครับ ซึ่งผมจะอธิบายแบบง่ายๆ ให้มือใหม่เข้าใจได้ และถ้าท่านใดพึ่งเปิด port Internet ในการ Trade เองคงได้เอาไปใช้ประโยชน์บ้าง เพราะถ้าไม่เข้าใจอาจยังไม่ได้เริ่มซื้อหุ้นซักที

สมมติว่าเราได้เริ่ม วิเคราะห์หุ้น หรือ อยากซื้อหุ้นซักตัว แปลง่ายๆว่าจะตกลงปลงใจซื้อหุ้นตัวนี้แน่ๆ แต่จะซื้อเป็นปริมาณ มากหรือน้อย ก็ขึ้นกับเงินทุนของเรา และความมั่นใจในบริษัทที่เราจะไปลงทุนว่าจะเจริญเติบโตไปตามที่เราคาดหวังไว้ อย่างไร

ถ้าเราได้โอนเงินเข้า port เรียบร้อย เราก็ต้อง key คำสั่งซื้อเพื่ิอให้ได้หุ้น นั้นๆ ในปริมาณที่เราต้องการ เช่นถ้าต้องการซื้อหุ้น บริษัท ซีพี เราก็ต้่องไปค้นหาก่อนว่าชื่อย่ิิอหุ้นนั้นคืออะไร ในที่นี้คือ CPF นะครับ วิธีการค้นคงไม่ยาก ไปซื้อหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับหุ้น หรือ หนังสือพิมพ์ธุรกิจต่างๆ น่าจะมีหมด หรือถ้าไม่อยากซื้อ ก็ดูในบริษัทที่เราจะ trade นั่นหล่ะ เขาน่าจะบอกวิธีหาตัวย่อหุ้นของบริษัทต่างๆ ให้เราได้

เอาละเมื่อรู้แล้ว เราก็ต้องมา key ว่าเราจะซื้อหรือจะขาย แต่เริ่มต้นเราคงไม่มีหุ้นจะขาย คงได้แต่ ซื้อหุ้นมาเข้า port ของเราก่อน ก็ต้อง key คำสั่งซื้อหุ้น โดยบอกชื่อหุ้นที่จะซื้อ ประมาณที่จะซื้อ และ ราคาที่จะซื้อ กรณีนี้ถ้าเราต้องการซื้อที่ 1000 หุ้น เราก็ต้องดูว่าเราจะซื้อที่ราคาเท่่าไร

เราสามารถเข้าไปดูได้ว่า Bid / Offer ของหุ้นนั้นๆ เป็นอย่างไร  โดย Bid คือราคาที่เราอยากซื้อ ส่วน offer คือราคาที่คนมีหุ้นอยากขาย ซึ่งถ้าอธิบายอย่างนี้ ไม่ว่าหุ้นอะไร ส่วนใหญ่ราคา offer มันก็จะต้องสูงกว่าราคา bid วันยังค่ำ เพราะคนมีหุ้นก็อยากขายหุ้้น แพงๆ ให้ไดกำไร ส่วนคนซื้อหุ้น ก็อยากได้ หุ้น ราคา ถูกๆ เพื่อจะได้ของราคาถูก แบบที่เราชอบซื้อของราคาถูกนั่นหล่ะ

ดังนั้นถ้าเราอยากไ้ด้หุ้นนั้นอย่างเร็วมากๆ เราก็ต้องซื้อที่ราคา offer , ถ้าเรา ซื้อที่ราคา offer เราก็มักจะได้หุ้นในทันทีทันใด ส่วนถ้าเราอยากได้หุ้นราคาถูก เราเสนอซื้อหุ้นในราคาต่ำๆ เท่ากับราคา bid เราก็ต้องรอ จนกว่าคนขายจะใจอ่อนยอมขายของให้เราในราคาถูก ซึ่งโดยมากมักจะไม่ได้หุ้นทันที  ยกเว้นว่าหุ้นตัวนั้นๆ ราคากำลังดิ่ง แล้วคนที่มีหุ้นก็ีรีบขายเพราะกลัวหุ้นที่ตัวเองถือจะราคาตกลงไปอีก

นอกจากนี้ Volume หรือปริมาณซื้อขายหุ้น ก็เป็นตัวบอกว่าราคาหุ้นนั้นจะเป็นอย่างไร เช่น มีแต่คนอยากซื้อหุ้นนั้นๆ แยะมากๆ คนขายก็มีหุ้นจะขายแยะมากๆ ก็จะดันให้ราคาหุ้นนั้น ขึ้น (ตามหลักคนขายไม่ง้อคนซื้อ ) ส่วนในทางกลับกัน ถ้ามีคนอยากขายหุ้นนั้นมากๆ ราคาหุ้นนั้นก็มันจะตก แต่อย่างไรก็ดี volume ในการ trade ก็สำคัญ เช่น ถ้าหุ้นตัวนั้นๆ ไม่ค่อยมีการซื้อขายเลย ต่อมาวันดีัคนดี มีการซื้อ-ขาย แยะ ( volume มาแล้ว)  หุ้นนั้นๆ ก็มักจะ มีราคา ขึ้นหรือ ลง อย่างมีนัยสำคัญ

นอกจากนี้ ถ้าหุ้นใดมีการซื้อขายมากๆ (volume มากๆ ) ราคา Bid กับ offer จะใกล้เคียงกันมาก ส่วนหุ้นใดที่มีการซื้อขายกันน้อย ( volumeเบาบาง) ราคา Bid กับ offer ก็จะต่างกันมากๆ

ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น